ย้อนรอย ตำนานกระดาษโน็ตบอกใบ้ของ เยน เลห์มานน์ พา เยอรมัน คว่ำ อาเจนติน่า
ตำนานกระดาษโน็ตหลักล้านของเยนเลห์มานน์ 2017-07-04
//= BASE_URL ?>
วันที่ 16 ธันวาคมปี 2006 กระดาษโน็ตเก่าๆของผู้รักษาประตูระดับตำนานชาวเยอรมันอย่าง เยน เลห์มานน์ถูกประมูลในท้องตลาดที่ราคา 1 ล้านยูโร มันเป็นแผ่นการยุ่ยๆที่สำคัญอย่างมากที่ช่วยให้เขานำเยอรมนี คว่ำอาร์เจนตินาในการยิงจุดโทษในรอบ ควอเตอร์ไฟนอล ในฟุตบอลโลกปี 2006
แม้ว่า เลห์มานน์ จะได้ลงทีมชาติตั้งแต่ปี 1998 หลังจากที่เขาสามารถครองตัวจริงหน้าปากประตูทัพอินทรีเหล็กได้อย่างยาวนาน แต่ก็โดนจอมหนึบรุ่นน้องอย่าง โอลิเวอร์ คาห์น เข้ามายึดตำแหน่งตัวจริงและทำให้เขาไม่ได้เล่นในถ้วยโลกปี 1998 และ 2002 แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาได้สำเร็จ หลังจากที่ เลห์มานน์ ได้กลายเป็นหมายเลขหนึ่งของทัพเยอรมนีในการแข่งขันปี 2006 และสามารถเรียกฟอร์มออกมาได้อย่างน่าประทับใจ และพวกเขาทำได้ถึง 2 ประตูในนัดเปิดสนาม ซึ่งมาถึงในการแข่งขันรอบ ควอเตอร์ไฟนอล เลห์มานน์ มีแผนเด็ดในการเผด็จศึกทัพอเจนติน่าได้สำเร็จจากโผยกระดาษที่เขาเก็บไว้ในถุงเท้าฟุตบอลของเขาเลห์มานน์จะเอาออกมาดูก่อนที่ดาวเตะอาเจนไตน์ จะตะบันลูกโทษเข้าใส่
อาเจนติน่า ที่มาดีออกขึ้นนำไปก่อนในนาทีที่ 49 จากลูกยิงของ โรเบอร์โต้ อายาล่า ก่อนที่เยอรมันจะมาต่อลมหายใจได้สำเร็จในนาทีที่ 80 จากหอกตัวเก่งของทีมอย่าง มิโลสลาฟ โคเซ่ ก่อนจะเล่นกันต่อในช่วงต่อเวลาพิเศษแต่ก็ทำอะไรกันไม่ได้เสมอกันไป 1-1 จึงต้องชิงดำกันด้วยการยิงลูกโทษ และเป็นเยอรมันนีที่แสนจะรอบครอบจากโค้ชผู้รักษาประตูอย่าง เอนเดรียส โคปเก้ ที่เก็บสถิติการยิงของทัพฟ้าขาวไว้อย่างเป๊ะๆก่อนที่จะโน็ตไว้ให้กับ ลีแมนน์ เกี่ยวกับแนวโน้วทิศทางการยิงของนักเตะแต่ละคนซึ่ง เลห์มานน์ จะเอามันออกมาดูในทุกๆการยิง
จูลิโอ ครูซ ของทัพอาเจนไตน์ ได้เริ่มยิงก่อน แต่ เลห์มานน์ ก็หยุดความพยายามของสองดาวเตะลงได้หลังจากท่ เลห์มานน์ เซฟลูกยิงของ อายาล่า ได้อีกครั้ง (ในโน็ตบอกว่า อายาล่า "รอจังหวะ และพุ่งขวา") เขาเกือบหยุดลูกยิงที่สามของอาเจนติน่าได้สำเร็จ เยอรมันนีกลับมานำเป็น 4-2 ก่อนที่เขาจะมาหยุดลูกยิงลูกสำคัญของเกมส์จากฝีเท้าของดาวเตะระดับตำนานอย่าง คัมบิอาซโซ่ ไว้ได้อีกครั้ง (ไม่มีสถิติบอกใบ้การยิงของคัมบิอาซโซ่อย่างในลิส) พวกเขาประกาศความเกรียงไกรให้กับชาวโลกได้รับรู้ในปีนั้น
เลห์มานน์ เก็บโน็ตนั้นไว้ และบริจาคให้การประมูล โดยผู้ที่ได้ไปครอบครองคือ บริษัทยูทิลิตี้เยอรมัน เอนเนอร์จี้ บานเดน เวอร์เทนเบิร์ก